Home
Audi เดินหน้าแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุดทะเยอทะยานด้วยการเปิดตัวรถพลังงานทางเลือก 30 รุ่นภายในปี 2025 โดยในจำนวนนี้ 20 รุ่นจะใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
ค่ายรถตรา 4 ห่วงยังนำเสนอแพลตฟอร์มใหม่ 4 รุ่นที่จะรองรับรถพลังงานไฟฟ้าในอนาคต โดยแพลตฟอร์มแรกคือ MLB evo ที่ปัจจุบันถูกใช้กับรถเอสยูวี e-Tron และจะใช้กับรถที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่ช้าอย่าง e-Tron S Sportback
ที่น่าสนใจก็คือแพลตฟอร์ม MLB evo ใช้กับรถเครื่องยนต์สันดาปได้ด้วยเช่นกันอย่าง Audi Q7, A4, A5, A6, A7, A8, Q5 และ Q8 รวมถึงรถร่วมค่าย Volkswagen Group อย่างซูเปอร์เอสยูวี Lamborghini Urus และ Porsche Cayenne
แพลตฟอร์มรุ่นถัดมาคือ J1 ที่พัฒนาร่วมกับ Porsche และถูกใช้กับรถซีดานไฟฟ้าอย่าง Taycan ไปแล้ว ส่วนรถโปรดักชั่นรุ่นต่อไปคือรถซีดาน Audi e-tron GT โดยคาดว่าจะมีพละกำลังสูงสุดระดับ 600 แรงม้า แรงบิดทะลุหลัก 800 นิวตันเมตร
J1 เป็นโครงสร้างพิเศษที่รองรับระบบไฟฟ้า 800 โวลต์จึงสามารถใช้ระบบชาร์จไฟแบบเร่งด่วน อาทิรถพลังงานไฟฟ้าต้นแบบ e-tron GT สามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่จาก 0-80% ได้ในเวลาเพียง 20 นาที
แพลตฟอร์มลำดับที่ 3 คือ MEB ที่ใช้กับรถพลังงานไฟฟ้าของ Volkswagen Group หลายรุ่น รวมถึง Audi Q4 e-tron ขณะที่ Volkswagen จะใช้กับรถพลังไฟฟ้าอย่าง ID.3 ID.4, ID. Buzz และ ID. Vizzion
สุดท้ายคือแพลตฟอร์ม PPE (Premium Platform Electric) ที่เกิดจากการพัฒนาร่วมกับ Audi และ Porsche เหมาะสำหรับรถเอสยูวี วากอน และครอสโอเวอร์ตั้งแต่ขนาดกลางขึ้นไป รองรับระบบไฟฟ้า 800 โวลต์เช่นกัน
ที่มา: เว็บไซต์ Carscoops.com

Audi เดินหน้าแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุดทะเยอทะยานด้วยการเปิดตัวรถพลังงานทางเลือก 30 รุ่นภายในปี 2025 โดยในจำนวนนี้ 20 รุ่นจะใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
ค่ายรถตรา 4 ห่วงยังนำเสนอแพลตฟอร์มใหม่ 4 รุ่นที่จะรองรับรถพลังงานไฟฟ้าในอนาคต โดยแพลตฟอร์มแรกคือ MLB evo ที่ปัจจุบันถูกใช้กับรถเอสยูวี e-Tron และจะใช้กับรถที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่ช้าอย่าง e-Tron S Sportback
ที่น่าสนใจก็คือแพลตฟอร์ม MLB evo ใช้กับรถเครื่องยนต์สันดาปได้ด้วยเช่นกันอย่าง Audi Q7, A4, A5, A6, A7, A8, Q5 และ Q8 รวมถึงรถร่วมค่าย Volkswagen Group อย่างซูเปอร์เอสยูวี Lamborghini Urus และ Porsche Cayenne
แพลตฟอร์มรุ่นถัดมาคือ J1 ที่พัฒนาร่วมกับ Porsche และถูกใช้กับรถซีดานไฟฟ้าอย่าง Taycan ไปแล้ว ส่วนรถโปรดักชั่นรุ่นต่อไปคือรถซีดาน Audi e-tron GT โดยคาดว่าจะมีพละกำลังสูงสุดระดับ 600 แรงม้า แรงบิดทะลุหลัก 800 นิวตันเมตร
J1 เป็นโครงสร้างพิเศษที่รองรับระบบไฟฟ้า 800 โวลต์จึงสามารถใช้ระบบชาร์จไฟแบบเร่งด่วน อาทิรถพลังงานไฟฟ้าต้นแบบ e-tron GT สามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่จาก 0-80% ได้ในเวลาเพียง 20 นาที
แพลตฟอร์มลำดับที่ 3 คือ MEB ที่ใช้กับรถพลังงานไฟฟ้าของ Volkswagen Group หลายรุ่น รวมถึง Audi Q4 e-tron ขณะที่ Volkswagen จะใช้กับรถพลังไฟฟ้าอย่าง ID.3 ID.4, ID. Buzz และ ID. Vizzion
สุดท้ายคือแพลตฟอร์ม PPE (Premium Platform Electric) ที่เกิดจากการพัฒนาร่วมกับ Audi และ Porsche เหมาะสำหรับรถเอสยูวี วากอน และครอสโอเวอร์ตั้งแต่ขนาดกลางขึ้นไป รองรับระบบไฟฟ้า 800 โวลต์เช่นกัน
ที่มา: เว็บไซต์ Carscoops.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น