ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่กำลังจะมีประเด็นร้อนแรงเรื่องการจัดเก็บภาษีคริปโท ซึ่งขณะนี้ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการร่างกฎเกณฑ์ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายมกราคมนี้
ในขณะที่สหรัฐฯ เอง เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการจัดเก็บภาษีคริปโทมานานแล้ว ในอัตรา 10% - 37% สำหรับการถือครองในระยะสั้น และ 0% - 20% สำหรับการถือระยะยาวมากกว่า 1 ปี โดยธุรกรรมที่ขาดทุนสามารถนำมาหักลบกับกำไรในการคิดภาษีได้
ซึ่งล่าสุด Coinbase หนึ่งในแพลตฟอร์มเทรดคริปโทที่ใหญ่สุดและได้รับความนิยมในสหรัฐฯ ได้ร่วมมือกับ Coin Tracker บริษัทซอฟต์แวร์ด้านภาษีคริปโท เปิดให้ใช้บริการใหม่ ทั้งบนแอปพลิเคชันและบนเว็บไซต์ ที่จะรายงานการทำธุรกรรมทั้งหมดบนแพลตฟอร์มแก่นักลงทุนในสหรัฐฯ
โดยจุดประสงค์ของบริการนี้ ก็เพื่อลดความซับซ้อนสำหรับนักลงทุนที่ทำการซื้อขายเป็นประจำ และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักลงทุนในการยื่นเสียภาษีคริปโท ให้กับกรมสรรพากร (IRS) มากขึ้นนั่นเอง
ซึ่งบริการนี้ จะบอกรายละเอียดการทำธุรกรรม ได้แก่
-กำไรและขาดทุน จากการซื้อ-ขายคริปโท
-จำนวนเงินได้ ที่ต้องนำไปคิดในการยื่นเสียภาษี
-เป็นเงินที่ได้หรือเสีย จากการซื้อขายคริปโทที่ถือสั้น หรือถือยาวมากกว่า 1 ปี เพราะมีผลต่ออัตราการคำนวนภาษีของสหรัฐฯ
โดยรายงานเหล่านี้ จะแยกรายงานออกเป็นรายปี ซึ่งสามารถนำไปให้นักบัญชีใช้ในการยื่นภาษีต่อ หรือนำไปยื่นภาษีออนไลน์ผ่านทาง TurboTax เลยก็ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ CNBC เคยรายงานเมื่อปีที่แล้วว่า ภาษีคริปโทจำนวนมากนั้น ไม่ได้รับการชำระ สาเหตุหนึ่งก็มาจากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายด้านภาษีคริปโทในสหรัฐฯ
แต่อีกสาเหตุหนึ่งก็เกิดจากการที่แพลตฟอร์มเทรดคริปโทนั้น ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้มากพอ
ซึ่งเรื่องเหล่านี้มีความยุ่งยาก และทำให้นักลงทุนมีต้นทุนทั้งด้านเวลาและทรัพยากร สำหรับเก็บข้อมูลและคํานวณภาษีคริปโท
นี่จึงอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้แพลตฟอร์มเทรดคริปโทอย่าง Coinbase หันมาพัฒนาและเปิดบริการนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น